มีนโยบายต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยให้มีความมั่นคงในการอยู่อาศัย
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดกิจกรรม “โฆษก...พบสื่อ” เพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารของกระทรวงฯ อย่างทันท่วงที โดยมี นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน พร้อมด้วย นางเสาวนีย์ โขมพัตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายดารนัย อินสว่าง รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และนางศิริธนาพร ภูริหิรัญพัชร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน เข้าร่วมกิจกรรม สำหรับประเด็นที่น่าสนใจ ประกอบด้วย โครงการบ้านเคหะประชารัฐ ความก้าวหน้าการต่อต้านการค้ามนุษย์ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และการจัดงานกาชาดประจำปี 2559 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 ณ บริเวณห้องโถลงชั้น 1 อาคารใหม่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
นายดารนัย อินสว่าง รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าวให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการบ้านเคหะประชารัฐว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็น ของตัวเอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยให้มีความมั่นคงในการอยู่อาศัย และมีความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ประกอบกับต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศผ่านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนิน “โครงการบ้านประชารัฐ” ทั้ง นี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้มอบหมายให้การเคหะแห่งชาติ คัดสรรโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการฯ ตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้ชื่อ “โครงการบ้านเคหะประชารัฐ” โดยมีโครงการที่เข้าร่วมพร้อมโอนภายใน 2 ปี จำนวน 280 โครงการ รวมทั้งสิ้น 26,704 หน่วย แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ โครงการที่มีสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว รอยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จำนวน 178 โครงการ 14,593 หน่วย และโครงการเปิดขายใหม่ จำนวน 229 โครงการ รวมทั้งสิ้น 12,111 หน่วย ประกอบด้วย โครงการบ้านยั่งยืน ได้รวบรวมทั้งโครงการบ้านเอื้ออาทรและโครงการเคหะชุมชนเข้าร่วมโครงการบ้าน เคหะประชารัฐ จำนวน 214 โครงการ รวมทั้งสิ้น 10,172 หน่วย และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2557 จำนวน 15 โครงการ รวมทั้งสิ้น 1,939 หน่วย โครงการตั้งอยู่ในทำเลดีมีศักยภาพสูง เช่น ประชาสำราญ ร่มเกล้า ลาดกระบัง รังสิต นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ ชลบุรี ปราจีนบุรี กาญจนบุรี และหนองคาย เป็นต้น สำหรับราคาที่อยู่อาศัยแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 700,000 บาท จำนวน 226 โครงการ รวมทั้งสิ้น 12,049 หน่วย และที่อยู่อาศัยราคาเกิน 7 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท จำนวน 7 โครงการ รวมทั้งสิ้น 62 หน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559)
ส่วนอัตราการผ่อนชำระเป็นไปตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่กำหนดคือ อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษ กรณีวงเงินกู้ไม่เกิน 7 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 ร้อยละ 0, ปีที่ 2 - 3 ร้อยละ 2, ปีที่ 4 - 6 ร้อยละ 5 และ ปีที่ 7-30 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (ปัจจุบัน ธอส. = MRR - 0.75 %, ธนาคารออมสิน =MRR – 1.475 %) ผ่อนชำระ 3 ปีแรก ประมาณเดือนละ 3,000 บาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน กรณีวงเงินกู้ 7 แสนบาท ถึง 1.5 ล้านบาท อัตรา ดอกเบี้ยปีที่ 1-3 ร้อยละ 3, ปีที่ 4 – 6 ร้อยละ 5 และปีที่ 7 - 30 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (ปัจจุบันลูกค้ารายย่อย ธอส. = MRR - 0.75%, ธนาคารออมสิน =MRR - 1.475%
คุณสมบัติของผู้จองโครงการ ประกอบด้วย มีสัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะแล้ว กรณีจองที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 700,000 บาท ต้องมีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน กรณีจองที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 700,001 – 1,500,000 บาท ไม่จำกัดรายได้ ส่วนหลักฐานการจอง ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) หนังสือรับรองรายได้ หรือสลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ตนเอง วางเงินจองตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป
ผู้สนใจสามารถจองโครงการบ้านเคหะประชารัฐได้ตั้งแต่วันที่ 12-16 พฤษภาคม 2559 ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เวลา เวลา 08.30 - 18.00 น. นอกจากนี้ ยังเปิดให้จองในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 5 พื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 12 – 21 พฤษภาคม 2559 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา บุรีรัมย์ ชลบุรี และกระบี่ สอบถามเพิ่มเติม Call Center 1615
--------------------------------
นายดารนัย อินสว่าง รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าวให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการบ้านเคหะประชารัฐว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็น ของตัวเอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยให้มีความมั่นคงในการอยู่อาศัย และมีความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ประกอบกับต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศผ่านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนิน “โครงการบ้านประชารัฐ” ทั้ง นี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้มอบหมายให้การเคหะแห่งชาติ คัดสรรโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการฯ ตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้ชื่อ “โครงการบ้านเคหะประชารัฐ” โดยมีโครงการที่เข้าร่วมพร้อมโอนภายใน 2 ปี จำนวน 280 โครงการ รวมทั้งสิ้น 26,704 หน่วย แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ โครงการที่มีสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว รอยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จำนวน 178 โครงการ 14,593 หน่วย และโครงการเปิดขายใหม่ จำนวน 229 โครงการ รวมทั้งสิ้น 12,111 หน่วย ประกอบด้วย โครงการบ้านยั่งยืน ได้รวบรวมทั้งโครงการบ้านเอื้ออาทรและโครงการเคหะชุมชนเข้าร่วมโครงการบ้าน เคหะประชารัฐ จำนวน 214 โครงการ รวมทั้งสิ้น 10,172 หน่วย และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2557 จำนวน 15 โครงการ รวมทั้งสิ้น 1,939 หน่วย โครงการตั้งอยู่ในทำเลดีมีศักยภาพสูง เช่น ประชาสำราญ ร่มเกล้า ลาดกระบัง รังสิต นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ ชลบุรี ปราจีนบุรี กาญจนบุรี และหนองคาย เป็นต้น สำหรับราคาที่อยู่อาศัยแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 700,000 บาท จำนวน 226 โครงการ รวมทั้งสิ้น 12,049 หน่วย และที่อยู่อาศัยราคาเกิน 7 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท จำนวน 7 โครงการ รวมทั้งสิ้น 62 หน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559)
ส่วนอัตราการผ่อนชำระเป็นไปตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่กำหนดคือ อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษ กรณีวงเงินกู้ไม่เกิน 7 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 ร้อยละ 0, ปีที่ 2 - 3 ร้อยละ 2, ปีที่ 4 - 6 ร้อยละ 5 และ ปีที่ 7-30 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (ปัจจุบัน ธอส. = MRR - 0.75 %, ธนาคารออมสิน =MRR – 1.475 %) ผ่อนชำระ 3 ปีแรก ประมาณเดือนละ 3,000 บาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน กรณีวงเงินกู้ 7 แสนบาท ถึง 1.5 ล้านบาท อัตรา ดอกเบี้ยปีที่ 1-3 ร้อยละ 3, ปีที่ 4 – 6 ร้อยละ 5 และปีที่ 7 - 30 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (ปัจจุบันลูกค้ารายย่อย ธอส. = MRR - 0.75%, ธนาคารออมสิน =MRR - 1.475%
คุณสมบัติของผู้จองโครงการ ประกอบด้วย มีสัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะแล้ว กรณีจองที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 700,000 บาท ต้องมีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน กรณีจองที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 700,001 – 1,500,000 บาท ไม่จำกัดรายได้ ส่วนหลักฐานการจอง ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) หนังสือรับรองรายได้ หรือสลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ตนเอง วางเงินจองตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป
ผู้สนใจสามารถจองโครงการบ้านเคหะประชารัฐได้ตั้งแต่วันที่ 12-16 พฤษภาคม 2559 ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เวลา เวลา 08.30 - 18.00 น. นอกจากนี้ ยังเปิดให้จองในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 5 พื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 12 – 21 พฤษภาคม 2559 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา บุรีรัมย์ ชลบุรี และกระบี่ สอบถามเพิ่มเติม Call Center 1615
--------------------------------
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แสดงความคิดเห็น