“อาหาร”...“เครื่องนุ่งห่ม”... “ยารักษาโรค”...
“ที่อยู่อาศัย”...เป็นปัจจัยสี่ที่มนุษย์ทุกชีวิตล้วนจำเป็นและต้องการด้วยกันทั้งนั้น
คนที่มีอาหารบริโภคครบสามมื้อ เพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายให้เจริญเติบโต มีเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มใช้กันร้อนกันหนาว มียารักษาโรคใช้รักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยให้หายเป็นปกติ และมีที่อยู่อาศัยเป็นอาคารบ้านเรือนใช้สำหรับนอนหลับพักผ่อนก็ถือว่าเป็นคนที่มีปัจจัยสี่...เพื่อการดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข
ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่งแล้วก็คงยากที่จะหาความปกติสุขให้กับชีวิตได้ มนุษย์เราจึงเสาะแสวงหาปัจจัยสี่ให้กับชีวิตของตน บางคนก็ประสบความสำเร็จ แต่บางคนก็ไม่ประสบความสำเร็จด้วยเหตุผลที่ต่างกัน
การเคหะแห่งชาติเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานรัฐ วันนี้มี...“โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1” ขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการของคนที่อยากมีบ้านแต่มีรายได้ระดับปานกลาง
การเคหะแห่งชาติเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานรัฐ วันนี้มี...“โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1” ขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการของคนที่อยากมีบ้านแต่มีรายได้ระดับปานกลาง
สุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ บอกว่า โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดนี้ได้รับการอนุมัติจาก ครม.เมื่อปลายเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เราจะปรับปรุงรูปแบบใหม่เพื่อที่จะฉีกออกจากสิ่งที่คนจดจำในรูปแบบบ้านเอื้ออาทร หรือบ้านการเคหะที่ยังอยู่ในความทรงจำด้วยรูปแบบที่โบราณ ไม่ทันสมัย
“เชื่อว่าทุกคนรับรู้อยู่แล้วว่า การเคหะแห่งชาติเรานั้นสร้างบ้าน สร้างชุมชน สร้างสังคม โครงการเราไม่เฉพาะสร้างบ้านเท่านั้น ยังมีมาตรฐานในเรื่องการดูแลชุมชน สังคมที่ยังเดินหน้าเป็นนโยบายหลักอยู่”
สุภัคร ย้ำว่า ตัวบ้านทั้งหมด เราปรับรูปแบบใหม่ ซึ่งฉีกออกจากสิ่งที่ทุกคนเคยเห็น รูปแบบจะทันสมัยขึ้น หลากหลายขึ้น โดดเด่นด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัวและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ...สถาปนิกผู้ออกแบบพยายามที่จะสร้างสรรค์รูปแบบบ้านให้ดีขึ้นจากรูปแบบเดิมที่เคยๆเห็นกันมา
โครงการฯแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง
จำนวน 25 โครงการ 14,773 หน่วย ราคาอยู่ระหว่าง 530,000-740,000 บาท
จำนวน 25 โครงการ 14,773 หน่วย ราคาอยู่ระหว่าง 530,000-740,000 บาท
รูปแบบจะเป็น...อาคารชุด 3-5 ชั้น ขนาดห้อง 33 ตารางเมตร ...บ้านเดี่ยว 2 ชั้น...บ้านแฝด 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ 21-24 ตารางวา และทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ 16 ตารางวา
ถัดมา...โครงการพิเศษและบริการชุมชน จำนวน 13 โครงการ 1,373 หน่วย ราคาอยู่ระหว่าง 980,000-4,450,000 บาท ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวชั้นเดียว ขนาด 52-60 ตารางวา...บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 31-50 ตารางวา...อาคารพาณิชย์ 2.5 ชั้น ขนาด 22 ตารางวา...ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ขนาด 24-54 ตารางวา
นอกจากนี้ยังมีอาคารชุด 7 ชั้น ขนาดห้อง 40-50 ตารางเมตร และอาคารพาณิชย์ 3-3.5 ชั้น ขนาดพื้นที่ 18-42 ตารางวา
คงต้องย้ำว่า...โครงการที่เกิดขึ้น คงไม่ได้ไปแข่งขันแย่งลูกค้ากับเอกชน สุภัคร บอกว่า การเคหะแห่งชาติเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญนโยบายเน้นการสร้างที่อยู่อาศัย ชุมชน สภาพแวดล้อม
ลักษณะสร้างสรรค์สังคม...ส่วนในเรื่องกลุ่มเป้าหมายผู้มีรายได้น้อย กำหนดรายได้ครัวเรือนไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน หมายถึงว่าทั้งครอบครัว พ่อ...แม่มีรายได้รวมกันเท่านี้ ก็จะมีสูตรสำเร็จตายตัวจากประสบการณ์อยู่ว่า...
หากมีรายได้ครัวเรือนเท่านี้ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับที่พักอาศัย จะอยู่ที่ราวๆร้อยละ 15 ของรายได้ต่อเดือน เป็นตัวเลขที่ศึกษามาแล้วว่าจะไม่มีปัญหาในการผ่อนชำระค่าผ่อนบ้าน
สมมติว่ามี 100 บาท จะมีค่าใช้จ่ายกับที่อยู่อาศัยประมาณ 15 บาท เงินจำนวนนี้ไม่ใช่แค่ผ่อนบ้านอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายต่างๆเกี่ยวกับบ้านทั้งหมดรวมอยู่ด้วย
รายได้ 40,000 บาทต่อเดือน...ก็กัน 6,000 บาท เอาไว้ อาจจะนำไปผ่อนบ้านเดือนละ 3,500-4,000 บาท
เศรษฐกิจวันนี้หลายคนมองว่า...กำลังฝืด ผู้ที่มีรายได้ปานกลางมีฝันอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังจะหวังได้กี่มากน้อย?
สุภัคร มองว่า คำว่ารายได้ปานกลาง...ครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยเดือนละสี่หมื่นบาท ส่วนผู้มีรายได้น้อยจะเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละสามหมื่นบาท เพดานที่เราวางไว้ครัวเรือนละสี่หมื่นบาท ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีรายได้สูงกว่านั้นมีบ้านได้จากโครงการการเคหะฯ
“เรามีความเชื่อว่าวันนี้กลุ่มที่มีรายได้ปานกลางที่ว่านี้ อาจจะเช่าบ้านอยู่ ค่าเช่าก็อยู่ที่เดือนละสอง...สามพันกว่าบาท ถ้ามองว่าเอาค่าเช่าที่ใช้มาจ่ายเป็นค่าผ่อนบ้านในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงกับที่
“เรามีความเชื่อว่าวันนี้กลุ่มที่มีรายได้ปานกลางที่ว่านี้ อาจจะเช่าบ้านอยู่ ค่าเช่าก็อยู่ที่เดือนละสอง...สามพันกว่าบาท ถ้ามองว่าเอาค่าเช่าที่ใช้มาจ่ายเป็นค่าผ่อนบ้านในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงกับที่
ทำงานก็น่าจะทำให้คนมีโอกาสได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น”
“ผ่อน”...ไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าดีกว่า...“เช่า” อนาคตมีโอกาสเป็นของเรา
ข้อเท็จจริง หลายเรื่องที่มองเห็นมา...เมื่อพ่อแม่มีความมั่นคง
ในที่อยู่อาศัย ไม่มีข้อกังวลในเรื่องนี้ก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน หารายได้เพื่อความเป็นเจ้าของ...การดูแลบุตร ลูกหลานก็จะดีมากขึ้น ไม่น่าเป็นห่วง
พูดง่ายๆว่า...ครอบครัวจะมีความสุข
ถึงตรงนี้คงมีหลายคนอยากซื้อบ้านกับการเคหะฯแล้วไม่มากก็น้อย ก็จะมีคำถามต่อมา...การเคหะฯเปิดโครงการที่ไหนบ้าง สุภัคร ประชาสัมพันธ์ว่า โครงการนี้เปิดทั่วประเทศ อาทิ เมืองใหญ่ๆ เชียงใหม่ ภูเก็ต ในกรุงเทพฯ...ปริมณฑลก็มีที่ลาดกระบัง บางขุนเทียน เชื่อมโยงไปถึงบางปู จังหวัดสมุทรปราการ
“เรียกว่า...บ้านการเคหะฯอยู่ในแหล่งทำงาน บางคนก็คิดว่าบางปูไกล แต่ความเป็นจริงเป็นการซื้ออนาคต รถไฟฟ้าสายสีเขียวก็จะไปถึงบางปูเลย”
การเคหะฯโฉมใหม่...ยกระดับบ้านรูปแบบใหม่ทันสมัย บนทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูง ทั้งในกรุงเทพฯ...ปริมณฑล และในภูมิภาค เพื่อตอบทุกความต้องการ หลากหลายสไตล์ ให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม
เตรียมพบกับโครงการบ้านใหม่ รูปแบบทันสมัยของการเคหะแห่งชาติ...เร็วๆนี้
“แน่นอนว่า สิทธิพิเศษจะมีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยราคาพิเศษ แต่ต้องบอกก่อนว่า...การอนุมัติสินเชื่อแต่ละคนจะยากง่ายขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละคน เพราะพื้นฐานความเป็นมาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็พิจารณากันไปตามแต่ละขั้นตอนของสถาบันการเงิน”
สุภัคร บอกอีกว่า ผู้ที่สนใจบ้านของเราสามารถไปติดต่อได้ที่สำนักงานดูแลชุมชนต่างๆในพื้นที่ใกล้บ้านท่านก็ได้ สมมติว่าอยู่ที่ลำปาง ไม่อยากไปเชียงใหม่ ที่ลำปางก็มีสำนักงานดูแลชุมชน เดินเข้าไปขอรายละเอียดความคืบหน้าโครงการ พร้อมติดต่อซื้อได้ทันที
“สุดท้ายนี้ ขอให้กำลังใจผู้ที่อยากมีบ้าน ลองมาดูบ้านการเคหะฯก่อนว่าถูกใจไหม ทำเลเหมาะสมหรือไม่ ผ่อนไหวไหม และเมื่อมีรายได้มากขึ้นจะขยับขยายซื้อหลังใหม่ก็ค่อยว่ากันในอนาคต”
สุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวทิ้งท้าย.
แสดงความคิดเห็น